“เราเข้าใจธุรกิจนี้ ดังนั้นไม่ว่ามีเหตุการณ์อะไรมาขวางหน้า เราจะใช้สติปัญญากระโดดข้ามมันไปให้ได้” คือจุดยืนในการทำธุรกิจของคุณสุพรรณี (อวย) สุวรรณ และคุณจีรพงค์ (โจ) ใจห้าว ทั้งคู่ก้าวเข้าสู่ธุรกิจแอมเวย์จากการชักชวนของเพื่อน ตอนนั้นคุณอวยซึ่งกำลังตั้งครรภ์ต้องการเพียงจะสั่งซื้อสินค้า แต่เมื่อได้ฟังแผนธุรกิจ ได้เห็นตัวอย่างคนสำเร็จ ทั้งคู่ก็เปิดใจและเริ่มต้นธุรกิจทันที “เราไม่ได้มี Mindset ว่าชีวิตจะต้องง่ายดายโดยไม่ต้องแลก ความคิดของเราคือ ยอมรับในสภาพที่เกิดมาลำบาก แต่เราจะแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้นในทุกวันค่ะ”
ความตรงไปตรงมาที่ปรากฏชัดของทั้งคู่ถูกใช้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจ “หลักในการสร้างธุรกิจของเราคือ เล่าแผนธุรกิจให้ชัด ให้ความรู้เรื่อง Your Own Business การวางแผนเกษียณและความมั่นคง มุ่งมั่นที่จะทำให้เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้ เคลียร์ให้ชัดเจนแต่แรกว่ามีแนวทางแบบนี้ คนที่เข้าร่วมแสดงว่าเขาเข้าใจและมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน จริงอยู่ครับคนที่บ้าอย่างคู่เราน่าจะมีไม่มาก (หัวเราะ) แต่ธุรกิจแอมเวย์คือการสะสมคนทีละเล็กละน้อย เราไม่ต้องการคนมาก ขอแค่ได้พบคนที่คิดคล้ายกัน เข้าใจกัน เข้าใจแผน ยอมรับผลการทำงาน แล้วมาร่วมกันสร้างความมั่นคงให้ชีวิตครับ”
เหตุการณ์หนึ่งซึ่งพิสูจน์ความมุ่งมั่นของทั้งคู่คือ สถานการณ์โควิด ไม่ใช่เพียงต้องปรับรูปแบบการทำงานครั้งใหญ่ แต่ยังต้องมุ่งหน้าสร้างธุรกิจให้เติบโตขณะที่คุณโจติดโควิด! “ตอนนั้นเป็นช่วงล็อกดาวน์เดินทางไม่ได้ คุณโจต้องไปอยู่โรงพยาบาลสนามคนเดียว” คุณอวยเล่า “เรายังทำธุรกิจต่อโดยไม่ได้บอกดาวน์ไลน์ คุณโจจัดเซนเตอร์ออนไลน์ขณะอยู่ในที่กักตัว ให้กำลังใจผู้คนทั้งที่เราก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะรอดรึเปล่า (หัวเราะ) เล่าตอนนี้หัวเราะได้แต่ตอนนั้นไม่ขำเลย นอนร้องไห้ทุกคืน คิดว่าถ้าคุณโจไม่รอดจะทำยังไง เราต้องจากกันอย่างนี้เหรอ” คุณโจเปิดเผยความรู้สึกในช่วงเวลานั้นว่า “ผมคิดว่าเลวร้ายที่สุดก็คือ ตาย (ยิ้ม) แต่ก็ยอมรับสิ่งไหนแก้ไขไม่ได้ ไม่รู้จะเครียดไปทำไม ทำสิ่งที่เราทำได้ดีกว่า ดังนั้น ถึงแม้ยอมรับแต่ผมก็ไม่นั่งเฉยๆ บำรุงสุขภาพเต็มที่ จัดอาหารเสริมอย่างมีวินัย ออกกำลังกายทั้งที่ไม่เคยทำ ขนหนังสือไปอ่าน คิดว่าถ้ารอดมาจะได้มีความรู้เพิ่ม เป็นช่วงที่ไม่ง่ายครับ เพราะครั้งนี้วิกฤติชีวิตมันเกิดกับเราโดยตรง แต่ในที่สุดก็ผ่านมาได้ครับ”
จากเหตุการณ์นี้ ถือได้ว่านี่เป็นเครื่องพิสูจน์ความมั่นคงของธุรกิจ “ตอนเลือกธุรกิจนี้ เหตุผลหนึ่งเพราะธุรกิจนี้สามารถเติบโตได้ในทุกสภาวการณ์ ตอนเป็นโควิดผมก็คิดว่า นี่ละเป็นเวลาที่จะได้พิสูจน์ ซึ่งเราได้พิสูจน์แล้วว่าจริง” คุณอวยเสริม “ยิ่งกว่านั้นวิกฤติยังทำให้เราค้นพบว่า ศักยภาพดาวน์ไลน์ของเรา สายงานของเรา กระทั่งตัวเราเองมีล้นเหลือ ตัวเองแต่ก่อนใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเป็น แต่พอต้องมาทำออนไลน์ก็คิดว่า ไม่มีอะไรมาขวางกั้นเราได้ ไม่รู้เหรอ...ก็เรียนรู้สิ (หัวเราะ)”
ผ่านพ้นมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิต ตอนนี้ทั้งคู่พร้อมกางใบเรือเพื่อล่องสู่ความสำเร็จในลำดับต่อไป “ในธุรกิจนี้ทุกคนมีเครื่องมือเดียวกัน แผนธุรกิจเดียวกัน สินค้าเดียวกัน ความสำเร็จที่ต่างกันจึงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เราไม่สามารถใช้ความรู้เดิม การปฏิบัติตัวและความคิดในอาชีพเดิมมาติ๊ต่างว่า ถ้ามาทำธุรกิจนี้เราก็จะสำเร็จ มันไม่ได้แปรผันตรงแบบนั้นค่ะ ในธุรกิจนี้คุณต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนคนสำเร็จ คุณถึงจะสำเร็จได้ค่ะ”
เป็นคนดีที่ร่ำรวย คือจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนของทั้งคู่ “ผมอยากให้ทุกคนเป็นคนดีที่ร่ำรวยครับ” คุณโจบอกด้วยรอยยิ้ม “ส่วนมากเราจะมีภาพจำว่า คนดีต้องจน ต้องสมถะ แต่ผมอยากให้คนดีร่ำรวยกันให้เลื่องลือ เพื่อจุดประกายให้คนรุ่นใหม่อยากเป็นคนดีกันเยอะๆ ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นครับ ปัญหาที่ผ่านเข้ามาเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ทำให้เราเติบโต พัฒนาตัวเอง สร้างแนวคิดที่จะเติบโตไปข้างหน้า และเชื่อมั่นว่าชีวิตตัวเองต้องดีขึ้น แล้วเราจะไปถึงความสำเร็จได้ในที่สุดแน่นอนครับ”
สมัคร | ตุลาคม 2551 |
ระดับแพลตินัม | มกราคม 2553 |
ระดับทับทิม | ธันวาคม 2554 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2554 |
ระดับไพลิน | มีนาคม 2556 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2556 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2562 |
ระดับเพชร | กรกฎาคม 2562 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2563 |
นอกจากประสบการณ์การทำงานเป็นกัปตันเรือเดินทะเลและพยาบาลแล้ว คุณสัมฤทธิ์ (ฤทธิ์) และ พ.ต.ต.หญิง สุวลี (สุ) ตันสุริยวงศ์ ยังผ่านการทำธุรกิจมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบ้านจัดสรร ทำเต็นท์รถ เปิดร้านอาหาร เปิดโรงเรียนกวดวิชา “เราผ่านงานมาเยอะ ทำธุรกิจมามาก แต่สุดท้ายมันไม่จบค่ะ จนมาเจอธุรกิจแอมเวย์ที่ทำแล้วจบ และตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตเราจริงๆ”
คุณสุและคุณฤทธิ์เล่าให้ฟังว่า หลังได้รับตำแหน่งเพชรก็ปรับการทำงานมาเป็นเน้นการพูดคุยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเคลียร์แผนธุรกิจให้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น “เพราะคนกำลังเดินในเส้นทางนี้จะมีเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา มีสิ่งล่อตาล่อใจ ดังนั้น เราต้องดึงเขาให้กลับมาอยู่ในเป้าหมายครับ”
เมื่อเกิดวิกฤติใหญ่กับคนทั้งโลก การทำธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนอีกครั้ง และนั่นทำให้ทั้งคู่ค้นพบวิถีใหม่ในการทำธุรกิจที่ทั้งดีต่องานและดีต่อใจ “เราปรับการทำงานเป็นออนไลน์ 100% ซึ่งทำให้พบว่า การทำออนไลน์ได้เนื้องานมากกว่า มีสมาธิมากกว่าค่ะ” คุณสุเล่า “ที่ว่าดีต่องานเพราะเราสามารถทำได้ตลอดเวลา ขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น สายสัมพันธ์ก็ไม่ลดเพราะคุยกันได้ตลอด และยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้คนในองค์กรได้เรียนรู้สิ่งใหม่ด้วย” ส่วนดีต่อใจนั้นคุณฤทธิ์อธิบายว่า “เราได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นครับ เรื่องออนไลน์เราไม่ได้เก่งมากก็เลยให้ลูกๆ มาช่วย ถึงลูกจะบ่นบ้าง (หัวเราะ) แต่เขาก็มาช่วย ผมมองว่านี่เป็นโอกาสในการปูพื้นฐานให้ลูกเรียนรู้ธุรกิจและเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว เมื่อก่อนเราสร้างบ้านหลังใหญ่ไว้แต่ไม่ค่อยได้อยู่ ต้องเดินทางไปนู่นไปนี่ แต่เดี๋ยวนี้เราได้ทำงานอยู่ในบ้าน มีเวลาออกกำลังกาย ทำสิ่งที่ชอบ ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า นี่คือชีวิตของคนสำเร็จ ชีวิตของคนที่ไปถึงเป้าหมายในระดับหนึ่งครับ”
“เราใช้ธุรกิจนี้เข้าไปแก้โจทย์ชีวิตให้กับผู้คนค่ะ” คุณสุบอกถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจ “โจทย์ชีวิตของคนมีอยู่สามเรื่องหลัก คือ รายได้ สุขภาพ และเวลา ธุรกิจนี้เป็นคำตอบของโจทย์ทั้งสามข้อ เราพยายามทำให้ทุกคนเห็นว่า ทำอย่างไรให้สินค้าที่เขากินใช้ในชีวิตประจำวันกลายเป็นทรัพย์สิน” คุณสุยังเผยเคล็ดลับความสำเร็จว่าต้องมีสี่ถึง “หนึ่ง ดีถึง เชื่อว่าทุกคนดีอยู่แล้วแต่เราต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก ดึงความดีของเราออกมาให้มากที่สุด สอง ความสามารถถึง นี่เป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ ฝึกฝนได้ ถ้าความสามารถถึงเราจะมั่นใจทันทีเมื่อออกไปทำงาน สาม ความเป็นผู้นำถึง เพราะนี่คือธุรกิจของเรา เราต้องนำพาธุรกิจให้ก้าวเดินต่อไป และสี่ ทำถึง ทำให้มากพอ ถ้ามีสี่ถึงนี้รับรองว่าถึงความสำเร็จแน่นอนค่ะ”
ธุรกิจแอมเวย์ในวันนี้ของทั้งคู่จึงไม่เป็นเพียงการงานที่ทำเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ผสานเป็นเนื้อเดียวกับวิถีชีวิตได้อย่างลงตัว “เราตั้งเป้าหมายว่าจะช่วยองค์กรให้ไปถึงเป้าหมาย โดยเน้นให้ทุกสายมีความแข็งแรงมั่นคง ก้าวต่อไปทีละสเต็ปเพื่อไป A70 ให้ได้ครับ”
ในโลกวิถีใหม่ที่รูปแบบการทำธุรกิจอาจเปลี่ยนไป แต่ทั้งคู่ยังเชื่อว่า การก้าวเดินสู่ความสำเร็จยังต้องใช้สูตรเดิม “ศึกษางานพื้นฐานให้เข้าใจอย่างแท้จริง ทำให้เยอะเพื่อไปสู่ความสำเร็จให้เร็วที่สุด เวลาที่เหลือเราจะได้ใช้ชีวิตแบบที่เราอยากใช้ครับ” คุณฤทธิ์บอกด้วยรอยยิ้ม “ในธุรกิจนี้ทุกคนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เหมือนกันค่ะ ต้นทุนที่ทุกคนเริ่มสะสมได้เหมือนกันคือการเรียนรู้ ฟังให้เป็น ถ่ายทอดให้ได้ ทำเนื้องานให้ถึง กำหนดเป้าหมายแล้ววางไทม์ไลน์เพื่อย่อยออกมาเป็นเนื้องานให้ชัดเจนจะช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ธุรกิจนี้เป็นเครื่องมือที่สร้าง Financial Freedom ได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน ไม่ต้องใช้อัจฉริยภาพ ใช้แค่ความพยายาม ความมุ่งมั่นตั้งใจ และอยู่ให้นานพอจนเข้าใจธุรกิจ ล้มกี่ครั้งไม่สำคัญ สำคัญคือลุกขึ้นมาแล้วก้าวต่อ เชื่อว่าทุกคนทำได้และทุกคนสำเร็จในธุรกิจนี้ได้แน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”
สมัคร | พฤศจิกายน 2552 |
ระดับแพลตินัม | กุมภาพันธ์ 2556 |
ระดับแพลตินัมสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2559 |
ระดับไพลิน | พฤษภาคม 2560 |
ระดับไพลินสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2561 |
ระดับมรกต | สิงหาคม 2560 |
ระดับมรกตสองผู้สถาปนา | มิถุนายน 2563 |
ระดับเพชร | สิงหาคม 2561 |
ระดับเพชรสองผู้สถาปนา | สิงหาคม 2563 |
ระดับเพชรบริหาร | สิงหาคม 2563 |